เป็นแฟ้มสะสมงานของรายวิชาสื่อเพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย
ครั้งที่13 วันพฤหัสบดี ที่30 กันยายน 2553
ข้าพเจ้าได้ทำ หน่วย...สัตว์ (ไม่ได้ถ่ายรูปผลงาน)และทำแบบประเมินอาจารย์ผู้สอน
วันที่12 วันพฤหัสบดี ที่23 กันยายน 2553
ครั้งที่11 วันพฤหัสบดี ที่16 กันยายน 2553
ส่วนประกอบ
1.เกลือ 1 / 2 ถ้วย
2.แป้งสาลี 1 ถ้วย
3.สารส้มป่น 2 ช้อนโต๊ะ
4.น้ำ 1 ถ้วย
5.ทาทาครีม 1 ช้อนโต๊ะ หรือใช้น้ำมันมะกอก
6.สีผสมอาหาร
วิธีทำ
นำเกลือแป้งสาลี และ สารส้มป่นผสมให้เข้ากัน จากนั้นค่อยเติมน้ำและน้ำมันทีละน้อยให้เข้ากันดีคนไปเลื่อย แล้วใส่สีผสมอาหารนำขึ้นตั้งไฟกวนจนแป้งไม่ติดภาชนะพอได้ที่แล้วก็นำออกมานวดให้แป้งเป็นเนื้อเดียวกัน เก็บไว้ในภาชนะให้เรียบร้อย ไม่ต้องเเช่ตู้เย็น
ครั้งที่10 วันพฤหัสบดี ที่9 กันยายน 2553
ครั้งที่9 วันพฤหัสบดี ที่2 กันยายน 2553
ครั้งที่8 วันพฤหัสบดี ที่19 สิงหาคม 2553
เกมจับคู่ เกมโดมิโน เกมความสัมพันธ์สองแกน ตัวเชิด และอื่นๆ
ครั้งที่7 วันพฤหัสบดี ที่29 กรกฎาคม 2553
วันนี้ฝนตก และอาจารย์มีธุระจึงได้ให้งานนักศึกษาไปทำโครงร่างเกมการศึกษาโดยห้ามซ้ำกัน
เกมจับภาพคู่และเงา
ทักษะประสบการณ์ที่เด็กได้รับ
1.รู้จักการสังเกตและจำแนกสิ่งของ
2.สมาธิ
3.รู้จักการเปรียบเทียบ
4.เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลินและผ่อนคลาย
5.สอคคล้องกับประสาทสัมพันธ์ระหว่างกล้ามเนื้อเล็กกับมือ
วัสดุที่ใช้
1.กระดาษแข็ง
2.กาว
3.กระดาษสี
4.กรรไกร
5.ดินสอสี
6.กระดาษก๊อปปี้
7.รูปภาพ
วิธีเล่น
1.จับภาพที่เป็นรูปเงามาวางเข้าคู่ที่มีภาพจริงติดอยู่
2.ตรวจสอบความถูกต้อง
3.ให้คะแนนหรือคำชม
ครั้งที่6 วันพฤหัสบดี ที่22 กรกฎาคม 2553
#ความสำคัญ #
1.ทำให้สิ่งที่เป็นนามธรรมให้เป็นรูปธรรม
2.ได้ประสบการณ์ตรง จำได้นาน
3.รวดเร็ว เพลิดเพลิน เข้าใจง่าย
#ลักษณะสื่อที่ดี#
1.ต้องมีความปลอดภัย
2.ประโยชน์ที่เด็กได้รับเหมาะสมกับความสามารถของเด็ก ความสนใจ
3.ระหยัด
4.ประสิทธิภาพ
5.หลักการเลือกสื่อ
6.คุณภาพดี
7.เด็กเข้าใจง่าย
8.เลือกให้เหมาะกับสภาพของศูนย์
9.เหมาะสมกับวัย
10.เหมาะสมกับเวลาที่ใช้เด็กได้มีส่วนร่วมในกิจกรรม
11.ถูกต้องตามเนื้อหา ทันสมัย
12.เด็กได้คิดเป็นทำเป็น กล้าแสดงออก
#ประเมินการใช้สื่อ#
1.สื่อช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้เพียงใด
2.เด็กชอบสื่อชนิดนี้เพียงใด
3.สื่อช่วยสอนตามจุดประสงค์หรือไม่
ครั้งที่5 วันพฤหัสบดี ที่15 กรกฎาคม 2553
นำเสนอสื่อใช้
ครั้งที่ 4 วันพฤหัสบดี ที่8 กรกฎาคม 2553
ครั้งที่ 3 วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฏาคม 2553
ทฤษฎีของฟรอยด์
ฟรอยด์ (Freud, 1856-1939) เป็นชาวออสเตรีย เป็นคนแรกที่เห็นความสำคัญของพัฒนาการในวัยเด็ก ถือว่าเป็นรากฐานของ พัฒนาการของบุคลิกภาพ ตอนวัยผู้ใหญ่ สนับสนุนคำกล่าวของนักกวี Wordsworth ที่ว่า "The child is father of the man” และมีความเชื่อว่า 5 ปีแรกของชีวิตมีความสำคัญมาก เป็นระยะวิกฤติของพัฒนาการ ของชีวิตบุคลิกภาพของผู้ใหญ่ มักจะเป็นผลรวมของ 5 ปีแรก ฟรอยด์เชื่อว่า บุคลิกภาพของผู้ใหญ่ ที่แตกต่างกัน ก็เนื่องจากประสบการณ์ของแต่ละคน เมื่อเวลาอยู่ในวัยเด็ก และขึ้นอยู่กับว่าเด็กแต่ละคน แก้ปัญหาของความขัดแย้งของแต่ละวัยอย่างไร ทฤษฎีของฟรอยด์มีอิทธิพลทางการ รักษาคนไข้โรคจิต วิธีการนี้เรียกว่า จิตวิเคราะห์ (Psychoanalysis) โดยให้คนไข้ระบายปัญหาให้จิตแพทย์ฟัง
ทฤษฎีของฟรอยด์อาจจะกล่าวหลักโดยย่อดังต่อไปนี้
ฟรอยด์ได้แบ่งจิตของมนุษย์ออกเป็น 3 ระดับ คือ
1.จิตสำนึก (Conscious)
2.จิตก่อนสำนึก (Pre-conscious)
3.จิตไร้สำนึก (Unconscious)
เนื่อง จากระดับจิตสำนึก เป็นระดับที่ผู้แสดงพฤติกรรมทราบ และรู้ตัว ส่วนเนื้อหาของระดับ จิตก่อนสำนึก เป็นสิ่งที่จะดึงขึ้นมา อยู่ในระดับจิตสำนึก ได้ง่าย ถ้าหากมีความจำเป็นหรือต้องการ ระดับจิตไร้สำนึกเป็นระดับที่อยู่ในส่วนลึกภายในจิตใจ จะดึงขึ้นมาถึงระดับจิตสำนึกได้ยาก แต่สิ่งที่อยู่ในระดับไร้สำนึก ก็มีอิทธิพลต่อพฤติกรรม ฟรอยด์เป็นคนแรก ที่ได้ให้ความคิดเกี่ยวกับแรงผลักดันไร้สำนึก (Unconscious drive) หรือแรงจูงใจไร้สำนึก (Unconscious motivation) ว่าเป็นสาเหตุสำคัญของพฤติกรรม และมีอิทธิพลต่อบุคลิกภาพของมนุษย์
ฟรอยด์กล่าวว่า มนุษย์เรามีสัญชาติญาณติดตัวมาแต่กำเนิด และได้แบ่งสัญชาติญาณออกเป็น 2 ชนิดคือ
1) สัญชาติญาณเพื่อการดำรงชีวิต (Life instinct)
2) สัญชาติญาณเพื่อความตาย (Death instinct)
สัญชาตญาณ บางอย่าง จะถูกเก็บกดไว้ในจิตไร้สำนึก ฟรอยด์ได้อธิบายเกี่ยวกับสัญชาตญาณ เพื่อการดำรงชีวิตไว้อย่างละเอียด ได้ตั้งสมมติฐานว่า มนุษย์เรามีพลังงานอยู่ในตัวตั้งแต่เกิด เรียกพลังงานนี้ว่า "Libido” เป็นพลังงานที่ทำให้คนเราอยากมีชีวิตอยู่ อยากสร้างสรรค์ และอยากจะมีความรัก มีแรงขับทางด้านเพศ หรือกามารมณ์ (Sex) เพื่อจุดเป้าหมาย คือความสุขและความพึงพอใจ (Pleasure) โดยมีส่วนต่างๆ ของร่างกายที่ไวต่อความรู้สึก และได้เรียกส่วนนี้ว่า อีโรจีเนียสโซน (Erogenous Zones) แบ่งออกเป็นส่วนต่างดังนี้
- ส่วนปาก ช่องปาก (Oral)
- ส่วนทางทวารหนัก (Anal)
- และส่วนทางอวัยวะสืบพันธุ์ (Genital Organ)
ฉะนั้น ฟรอยด์กล่าวว่าความพึงพอใจในส่วนต่างๆ ของร่างกายนี้ เป็นไปตามวัย เริ่มตั้งแต่วัยทารก จนถึงวัยผู้ใหญ่ ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 ขั้น คือ
1. ขั้นปาก (Oral Stage)
2. ขั้นทวารหนัก (Anal Stage)
3. ขั้นอวัยวะเพศ (Phallic Stage)
4. ขั้นแฝง (Latence Stage)
5. ขั้นสนใจเพศตรงข้าม (Genital Stage)
ครั้งที่ 2 วันพฤหัสบดี ที่24 มิถุนายน 2553
1.เด็กปฐมวัยคือ เด็กที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด-6ปี
2.เราควรจะศึกษาเด็กปฐมวัยอย่างไรถึงจะรู้ว่าเด็กเป็นอย่างไร ศึกษาเด็กโดยการสังเกตพฤติกรรม
3.เด็กปฐมวัยเรียนรู้อย่างไร เรียนรู้จากสิ่งของจำลอง ในห้องเรียน สิ่งแวดล้อม และอื่นๆ
4.นักทฤษฎีที่รู้จก อิริคสัน เพียเจท์ บรูเนอร์ ฟรอยด์ แบนดูรา มอนเตสเซอรรี่ และอื่นๆ